•   а№Ђаёћаёґа№ЂаёЎа№Ђаёћаёа№Ђаёаё

Sales Office

02-116-2772

Call Center

086-999-8665

น้ำมันหอมระเหยแท้ vs. น้ำมันหอมสังเคราะห์

น้ำมันหอมระเหยแท้ vs. น้ำมันหอมสังเคราะห์

นื่อง จากสัมผัสทางกลิ่นที่คล้ายคลึงกัน หรืออาจจะถูกใจผู้ใช้มากกว่าของน้ำมันหอมสังเคราะห์ ผู้ใช้จะได้รับเพียงความรู้สึกพึงพอใจทางกลิ่นเท่านั้น แต่น้ำมันหอมสังเคราะห์จะไม่มีผลในการบำบัดรักษาอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เหมือนกับที่ได้รับจากน้ำมันหอมระเหย อีกทั้งสารเคมีที่ใช้สังเคราะห์น้ำมันหอมนั้น ยังเป็นอันตรายกับระบบทางเดินหายใจอีกด้วย ในขณะที่น้ำมันหอมระเหยนั้นจะปลอดภัยและไม่ทำอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ผู้ใช้จึงควรพิจารณาให้ดีถึงความคุ้มค่า และความปลอดภัยที่ได้รับจากการใช้น้ำมันหอมระเหย เปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันสังเคราะห์

น้ำมันหอมระเหยแท้ จะมีราคาสูง
100% Pure Essential Oil
    
น้ำมันหอมระเหยผสม มีราคาปานกลาง
Reconstituted Essential Oil
    
น้ำมันหอมสังเคราะห์ มีราคาถูก
Synthetic Essential Oil

การ หาน้ำมันหอมระเหยที่ดีที่สุดแต่ละชนิด ก็ต้องมาจากแหล่งผลิตที่อยู่ในถิ่นกำเนิดของพืชชนิดนั้น ๆ อย่างเช่น ลาเวนเดอร์ คาโมไมล์ กุหลาบดามัส แหล่งผลิตที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นประเทศแถบยุโรป เช่น ฝรั่งเศส บัลแกเรีย อังกฤษ ถึงแม้ว่า จีนหรืออินเดีย จะสามารถผลิตได้เช่นกัน แต่คุณภาพของน้ำมันหอมระเหย ที่ปลูกในสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน ก็จะให้คุณภาพที่แตกต่างกันไป บัลแกเรียเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าผลิตน้ำมันหอมระเหยกุหลาบ และลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก น้ำมันหอมระเหยแซนเดิ้ลวูดพันธ์ที่ดีที่สุดต้องมาจากประเทศอินเดีย ทีทรี มีแหล่งกำเินิดอยู่ที่ออสเตรเลีย น้ำมันที่สกัดจากยาง หรือเรซิน อย่างเช่น เมอร์ แฟรงคินเซนส์ มีแหล่งผลิตอยู่ในแถบแอฟริกา หรือจากอังกฤษ ที่มีการนำเข้าวัตถุดิบยางหรือเรซินจากแอฟริกามากลั่นเอง หรือในประเทศไทยก็อย่างเช่นน้ำมันหอมระเหยของ ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด ไพล ขมิ้น เป็นต้น

หลักการเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหย มีดังนี้

    หลีก เลี่ยงน้ำมันหอมระเหยที่ฉลากระบุว่า Perfume Oil หรือ Fragrance Oil ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการนำน้ำมันหอมระเหยชนิดสังเคราะห์ที่ได้กลิ่นเหมือน กันมาใช้แทน ไม่มีประโยชน์ในการบำบัด กลิ่นแรกหลังจุดจะรู้สึกแสบจมูก

    หาก น้ำมันหอมระเหยบรรจุอยู่ในขวดแก้วใส คุณสมบัติหรือประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยจะถูกทำลายด้วยแสงที่มากระทบ กลิ่นหอมจะไม่คงทน และประโยชน์ในการบำบัดก็จะลดลงตามไปด้วย วิธีการเลือกซื้อที่ถูกต้อง คือ น้ำมันหอมระเหยต้องเก็บไว้ในภาชนะแก้วสีทึบ เพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายองค์ประกอบในน้ำมันหอมระเหย เช่น ขวดแก้วสีน้ำตาล สีน้ำเงิน หรือสีเขียว เป็นต้น

    หลีก เลี่ยงการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดพลาสติก หรือมีจุกยาง เนื่องจากคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยแท้จะละลายพลาสติกหรือจุกยางได้ ขวดบรรจุต้องเป็นขวดแก้วหรืออะลูมิเนียมเท่านั้น และจุกหยดที่ใช้ขวดน้ำมันหอมระเหยควรเป็นพลาสติกแบบแข็งที่ทำมาเฉพาะ และฝาปิดควรเป็นอะลูมิเนียมหรือพลาสติกแข็งที่ทนทานเช่นกัน

    ราคา ของน้ำมันหอมระเหยโดยปกติแล้วมีราคาหลักพันถึงหลายหมื่น บาทต่อลิตร โดยที่น้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้หอมและพืชบางชนิด จะมีราคาแพงมาก ประมาณ 50,000-250,000 บาทต่อลิตร เช่น มะลิ (Jasmine) เนโรลี่ (Neroli) กุหลาบ (Rose) ไม้จันทน์ (Sandalwood) คาโมไมล์ (Chamomile) ลีลาวดี (Frangipani) ซ่อนกลิ่น (Tuberose) ดอกบัว (Lotus) เพราะฉะนั้นหากท่านเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยได้ในราคาถูกเกินความเป็นจริง ขอให้หยุดคิดสักนิดว่านั่นไม่ใช่ของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจเป็นเพียงน้ำหอมสังเคราะห์ ผู้ซื้อจึงควรเลือกจ่ายในราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์

    หากพบน้ำมันหอมระเหยมีตะกอนอยู่ก้นขวดหรือแขวนลอยอยู่ ขอให้เลี่ยงเพราะน้ำมันหอมระเหยดังกล่าวอาจถูกเก็บไว้นานเกินไป

    ผู้ขายสามารถอธิบายถึงสรรพคุณของน้ำมันหอมระเหยดังกล่าวได้หรือไม่ มีความรู้ในตัวผลิตภัณฑ์มากเพียงใด ผู้ขายควรมี ข้อมูลของน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด ซึ่งประกอบด้วย ชื่อทางวิทยาศาสตร์ ประเทศที่ผลิต และวิธีการสกัด เป็นอย่างน้อย

    ใน ปัจจุบันมีน้ำมันหอมกลิ่นดอกไม้ไทยหลายชนิดที่เขียนว่าเป็นน้ำมันหอมระเหย เช่น ดอกโมก ดอกแก้ว ราตรี ลีลาวดี มะลิ ซ่อนกลิ่น หรืออื่น ๆ ที่ขายในขนาดบรรจุเล็กขวดละไม่กี่สิบบาท น้ำมัน หอมระเหยเหล่านั้นเป็นน้ำมันหอม (fragrance) ที่สังเคราะห์ขึ้นมาให้กลิ่นของดอกไม้ไทย มีราคาถูกเพียงแค่ประมาณ 1,000-3,000 บาทต่อลิตรเท่านั้น ไม่ใช่น้ำมันหอมระเหยที่สกัดมาจากดอกไม้ชนิดนั้น ๆ โดยตรง ใน ปัจจุบัน ดอกไม้ไทยที่มีการสกัดน้ำมันหอมระเหยออกมานั้น จะมีเพียงแค่ มะลิ ลีลาวดี ซ่อนกลิ่น และดอกบัว เท่านั้น ซึ่งราคาก็จะแพงมากอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 80,000-200,000 บาทต่อลิตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีน้ำมันหอมระเหยดอกไม้ไทย ของแท้ที่สกัดจากดอกไม้จริง ๆ ขายในราคาถูก การใช้น้ำหอมประเภทนี้กับเตาเผาน้ำมันหอมระเหยไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบทางเดินหายใจได้ ผู้ซึ้อควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ระหว่างราคา คุณภาพ และความปลอดภัย


ทำไมน้ำมันหอมระเหยถึงมีราคาไม่เท่ากัน บางชนิดถูกมาก บางชนิดกลับมีราคาสูง
      
น้ำมัน หอมระเหยคือน้ำมันที่กลั่นหรือสกัดมาจากสารหอมที่อยู่ในส่วนต่าง ๆ ของพืช ซึ่งในพืชแ่ต่ละชนิดก็จะมีปริมาณของน้ำมันหอมระเหยมากน้อยแตกต่างกัน และการสกัดอาจต้องใช้วิธีที่แตกต่างกันเพื่อป้องการการถูกทำลายขององค์ ประกอบที่มีประโยชน์ในน้ำมันหอมระเหยของพืชแต่ละชนิด พืชที่สามารถสกัดน้ำมันหอมระเหยออกมาได้ง่ายและมีปริมาณมาก ก็จะมีราคาถูก อย่างเช่น ส้ม ตะไคร้ ไพน์ ซีดาร์ ยูคาลิปตัส เป๊บเปอร์มินท์ ในขณะที่น้ำมันหอมระเหยบางชนิดที่มีปริมาณน้อยและต้องใช้วัตถุดิบปริมาณมาก ในการสกัดนำน้ำมันหอมระเหยออกมา ก็จะมีราคาแพงมากขึ้นไปตามลำดับ ทั้งนี้ ปัจจัย หลาย ๆ อย่างที่เป็นตัวกำหนดราคาของน้ำมันหอมระเหยก็คือ ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ ความยากง่ายในการปลูก พื้นที่เพาะปลูก และอื่น ๆ

แต่ มีน้ำมันหอมระเหยอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งสกัดได้ในปริมาณที่น้อยมาก จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบปริมาณมาก ที่เพาะปลูกได้ยากและมีปริมาณน้อย อย่างเช่น กุหลาบ ซึ่งต้องใช้กลีบกุหลาบถึง 3 พันกลีบ ถึงสามารถสกัดน้ำมันหอมระเหยกุหลาบได้เพียง 1 หยด จึงทำให้น้ำมันหอมระเหยกลุ่มนี้ มีราคาแพงมาก โดยเฉพาะน้ำมันหอมระเหยดอกกุหลาบแท้ ราคาต่ำสุดจากผู้ผลิตโดยตรงจะตกอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 200,000-250,000 บาทต่อลิตร จึงทำให้มีการปลอมแปลงน้ำหอมสังเคราะห์ขึ้นมาแทนที่น้ำมันหอมระเหยประเภทนี้ สูงมาก ทั้งที่ได้มาจากการผสมน้ำมันหอมระเหยราคาถูก อย่างเช่น พาลมาโรสา ตะไคร้ และอื่น ๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่ใกล้เคียงกับกุหลาบ หรือแม้แต่ใช้น้ำหอมสังเคราะห์จากสารเคมีในห้องแลบซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า มาก จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะต้องซื้อน้ำมันหอมระเหยจากผู้ขายที่มีความรู้ และเชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมันหอมระเหยที่คุณใช้ มีคุณสมบัติอย่างที่ควรจะเป็นครบทุกประการ และปลอดภัยต่อร่างกาย

น้ำมันหอมระเหยที่มีราคาสูงได้แก่: กุหลาบ (Rose Otto) คาโมไมล์ (German & Roman Chamomile) มะลิ (Jasmine) เมลิสซา (Melissa) ลีลาวดี (Frangipani) ดอกบัว (White & Pink Lotus) ซ่อนกลิ่น (Tuberose) ไม้จันทน์ (Sandalwood) กฤษณา (Agarwood) เนโรลี่ (Neroli) อิมมอคแทล (Immortelle/Helichrysum) และจำปา (Champaca)

ข้อสำคัญ: น้ำมันหอมระเหยที่มีราคาสูง เพราะความสามารถในการผลิตน้อยและมีต้นทุนสูง ไม่ได้หมายความว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าชนิดอื่น ๆ เสมอไป


หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Cr. https://www.facebook.com/doterrathai/

Tags : น้ำมันหอมระเหย, อโรม่า, EssentailOil, Doterra, DoterraThailand, aroma, spa, สปากลิ่น, สปาบำบัด, เครื่องพ่นไอน้ำอัลตราโซนิค, aroma diffuserบำบัดด้วยกลิ่น

Start up your brand
Price List

Find Us on Facebook

JOBS

join us

SALES OFFICE MAP

Our Location