7 ข้อต้องรู้สำหรับ SMEs กลุ่มเครื่องสำอาง

ในสถานการณ์ที่ตลาดโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลง สินค้าหลายชนิดของไทยอย่าง ยางพารา ข้าว ฮาร์ดดิสก์ มียอดการส่งออกที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ แต่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางในไทยยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัว มิหนำซ้ำยังเกิดโอกาสในการเติบโตมากมายสำหรับผู้ประกอบการเครื่องสำอางไทย

สำหรับผู้ประกอบการ ว่าที่ผู้ประกอบการ หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในไทย มี 7 เรื่องพื้นฐานที่คุณต้องรู้ในตลาดที่อนาคตสดใส สวยงาม

1.ตลาดเครื่องสำอางไทยมูลค่า 2.6 แสนล้านบาท ในปี 2557
ซึ่งมีดูจากการเติบโตที่ระดับ 8-10% ต่อปี เราคงได้เห็นมูลค่าถึง 3 แสนล้านบาทในเร็วๆนี้ และด้วยความที่เป็นคนไทยมีค่านิยมในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกค่อนข้างมาก ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ตลาดเครื่องสำอางจะยังคงเป็น High Growth Market

2.ขายในประเทศ 1.62 แสนล้านบาท ส่งออก 9.8 หมื่นล้านบาท
เมื่อแบ่งจำนวน 2.6 แสนล้านออกมา จะเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการผลิตเครื่องสำอางเพื่อส่งออกเยอะมาก และที่ขายในประเทศส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่แบรนด์ที่มาจากคนไทยต่างหาก

3.ประเทศไทยคือผู้ส่งออกเครื่องสำอางอันดับ 1 ใน ASEAN
ด้วยศักยภาพของประเทศไทย ทั้งโรงงาน การบริโภคใช้เอง ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตเพื่อรองรับตลาดทั้งอาเซียน ถ้าลองไปตระเวนดูแถบ CLMV เราก็จะเห็นสินค้าเครื่องสำอางที่ผลิตในไทยถึง 30-40% บนชั้นวาง

4.ผู้ประกอบการเครื่องสำอางในไทย มีประมาณ 10,000 ราย
ในยุคที่ E-Commerce ทำได้แค่ปลายนิ้ว จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าจะมีผู้กระกอบการถึงหมื่นราย (ที่ตรวจสอบได้) โดยแบ่งเป็นผู้ผลิต 8,000 ราย ผู้นำเข้า 2,000 ราย และซื้อมาขายไปอีกนับไม่ถ้วน

5.คนไทยผลิตเครื่องสำอางเก่ง แต่ทำการตลาดไม่เก่ง(เท่าผลิต)
จากข้อมูลของสสว. ประเทศไทยมีตำรับยาที่จดทะเบียนและสามารถใช้ในการผลิตเครื่องสำอางถึง 400,000 ตำรับ ประกอบกับชื่อเสียงของสมุนไพร และวัฒนธรรมที่มีการใช้สมุนไพรเป็นยา ทำให้ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมไทยถึงผลิตสินค้ากลุ่มนี้เก่งมาก แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของคนไทย คือ การทำการตลาด

การทำตลาดที่ว่านี้ไม่ใช่แค่ TVC ขายครีม แต่รวมไปถึงละคร คลิปสอนแต่งหน้า ซึ่งคนไทยกลับโฟกัสแค่ตลาดไทยทั้งๆ ที่ประเทศเพื่อนบ้านก็บริโภคสื่อไทย ละครไทย ภาพยนตร์ไทยเยอะแยะ การใช้ภาษาอังกฤษจะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงประเทศอย่างเมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซียได้ง่ายขึ้น

6.คำว่า Made in Thailand เป็นจุดแข็งของไทย
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยก้าวหน้าก็คือ คำว่า Made in Thailand นั่นเอง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่แบรนด์จีนไม่สามารทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ผู้ประกอบการ และแบรนด์จีนจึงมีการว่าจ้างคนไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งจ้างผลิต จ้างผลิตและจำหน่าย เป็นต้น ฉะนั้นหากผู้ประกอบการรายไหนกำลังคิดที่จะสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง อย่าลืมใส่ความเป็นไทยเข้าไปด้วยเพราะโอกาสเติบโตยังมีอีกมาก

7.เทรนด์ที่กำลังเกิด Aging Society, Border Trade และ Unisex
นอกจากนั้นเทรนด์ที่โลกกำลังจับตามองหลายๆ อย่าง ก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดนี้ด้วย อย่างสังคมผู้สูงอายุ เครื่องสำอางก็สามารถมีบทบาททั้งในเรื่องสุขภาพ ริ้วรอย ซึ่งบอกเลยว่าผู้สูงอายุในอนาคตมีกำลังซื้อแน่นอน เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ For Men ทั้งหลายที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง และอีกเทรนด์ที่น่าสนใจก็คือ การค้าชายแดนที่มีมูลค่าสูงมาก

ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้ ผู้ผลิต ผู้ค้าเครื่องสำอางทั้งหลายควรกลับมาดู positioning ของตัวเองในตลาดว่า เราอยู่ในจุดใด สามารถแข่งขันได้นานขนาดไหน ส่วนพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ทั้งหลาย เตรียมตัวอ่านวิธีทำการตลาดออนไลน์สำหรับเครื่องสำอางได้ เร็วๆนี้

ที่มา : สสว สภาอุตสาหกรรม ยูพีเอส และ P&G